ผมยังจำได้ดีในวันที่ผมอายุแปดขวบขอพ่อซื้อของเล่นกล่องเล็กๆสีสันสวยงามซึ่งในกล่องประกอบไปด้วยโจรสลัดสามคน นกแก้ว และเรือลำเล่นๆซึ่งทั้งหมดต้องประกอบขึ้นมาเองและแน่นอนว่าพ่อลังแลในตอนแรกเพราะราคามันแม้จะกล่องเล็กแต่ราคาไม่เล็กด้วยแถมของในกล่องต้องประกอบเองเลยกลัวว่าจะเสียของแต่สุดท้ายผมก็ได้มาและเป็นความพยายามครั้งแรกในชีวิตที่จำความได้เลยแต่พอต่อเสร็จก็เกิดความรู้สึกดีที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากนั้นผมก็หลงรักของเล่นชิ้นนั้นอย่างฝังใจซึ่งชื่อของมันก็คือ LEGO
เมื่อช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาผมมีโอกาสรวมงาน Bricklive ที่เป็นงานใหญ่ในวงการเลโก้และงานที่จัดที่ไทยนี่เป็น Bricklive ครั้งแรกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(เค้าบอกอย่าวนั้นละนะแต่ก็เคยเห็นเค้าจัดที่อินโดมาก่อนนะ) ผมซื้อบัตรไว้ก่อนแล้วกะไปชิวๆเดินเข้างานเลยสบายๆคิดว่าคนคงไม่เยอะที่ไหนได้งานเปิดสิบโมงผมไปถึงสิบโมงไม่ถึงสิบนาทีคนออกันเต็มทางเข้า
บัตรที่ซื้อเป็นแบบ VIP แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามีอะไรพิเศษหรอกแค่ได้ของที่ระลึกและบัตรส่วนลดซื้อของแต่มันจะใช้ได้ถ้ามียอดซื้อขั้นต่ำตามกำหนดละครับ ว่ากันด้วยของที่ระลึกผมแอบผิดหวังนิดหน่อยเพราะคาดหวังว่ามันจะ exclusive ให้เหมาะกับการจัดครั้งแรกซะหน่อยแต่ของที่จัดมากลับเป็นเพ็กที่เรียกว่า polybag ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของแถมร่วมโปรโมชั่นของร้านตามปกติอยู่แล่วแต่ก็โอเคไม่ได้แย่อะไรเพราะถึงเค้าไม่แจกอะไรผมก็มาร่วมงานอยู่แล้ว
งาน Bricklive นี้จัดมาสำหรับแฟนเลโก้อย่างแท้จริงเพราะไม่ว่าจะเป็นแฟนประเภทไหนสิ่งที่ต้องการเหมือนกันคือการได้ต่อเลโก้ แน่นอนว่าในงานต้องมีอะไรมาโชว์บ้างอยู่แล้วแต่หลักๆในงานคือการเปิดโอกาสให้ได้ต่อเลโก้และโชว์ผลงานรวมถึงมีการจัดแข่งขันและสาธิตการต่อเลโก้จากผู้เชี่ยวชาญฉนั้นถ้าหากหวังมาช็อปแหลกถ่ายรูปกระจายงานนี้คงไม่เหมาะเท่าไหร่
โอเคก่อนที่จะไปกันไกลสำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนเลโก้อาจจะไม่รู้ว่าแฟนเลโก้ถูกแบ่งประเภทตามรสนิยมเหมือนวงการการสะสมอื่นๆทั่วไปและการแบ่งตามอายุซึ่งมีหลากหลายแต่ที่ได้ยินบ่อยๆก็จะมี AFOL หรือ Adult Fan of Lego แปลง่ายๆว่าแฟนเลโก้ผู้ใหญ่(แอบติดเรทเหทือนกันนะไอ้คำว่าแฟนผู้ใหญ่นี่), TFOL หรือ Teen Fan of Lego ซึ่งก็คือแฟนวัยรุ่น, MOC หรือ My Own Creation ซึ่งพวกนี้ชอบออกแบบเลโก้ของตัวเองที่ไม่ได้ต่อจากเซทของโดยทั่วไป, Collector พวกนี้จะสะสมเฉพาะ official set ที่มาจากบริษัทเลโก้เท่านั้นและสุดท้ายที่จะพูดถึงคือ Builder ที่อยู่ระหว่าง MOC กับ Collector ซึ่งผมน่าจะจัดอยู่ในแฟนกลุ่มนี้
กลับมา Bricklive Bangkok กันบ้างโดยงานนี้จัดเป็นหลายๆ โซนให้ได้เลือกเล่นทั้งบ่อเลโก้ที่จะมีบริค 2×4 ให้ต่อตามสบายเหมือนไปแช่ออนเซ็นเลโก้บริค (ที่จะคมๆหน่อยอาจมีแผลไม่รู้ตัว) และก็มีโซนที่เป็นทีมจากลิขสิทธืของเลโก้เองเช่น Ninjago, Lego City, Technic, Architecture, Racers, Lego Friends หรือลิขสิทธ์ที่ซื้อมาอย่าง Star wars และ Minecraft มาให้ต่อเล่นและก็ยังมีเปิดโอกาสให้เอาของที่ต่อมาวางโชว์ด้วย (แน่นอนว่าไม่ได้วางถาวรนะครับเพราะต้องหมุนเวียนพาร์ทสำหรับคนที่มาทีหลังด้วย) ผมก็ไม่ได้เข้ามันทุกโซนเพราะต้องยอมรับว่าบางโวนเด็กเยอะบวกกับผู้ปกครองที่กำลังดูแลลูกผ่านมือถืออยู่เลยเข้าไปยากพอควรและก็ไม่อยากแย่งที่เด็กด้วย ผมก็เลยต่อในบ่อขำๆทำปืนมาอันหนึ่งกับสร้างของไปวางในแผนที่นิดหน่อย
นอกจากการเปิดโอกาสให้ต่อเลโก้แล้วเราก็จะมีโอกาสได้ถ่ายรูปกับพวก mascot ต่างๆและสถานที่หรือสัญลักษณ์สำคัญของประเทศต่างๆที่เคยจัด Bricklive ที่ต่อจากเลโก้พอหอมปากหอมคอซึ่งผมเองก็ถ่ายมานิดหน่อยพอเป็นที่ระลึกไม่ได้เน้นเท่าไหร่
ส่วนสุดท้ายที่ผมจะพูดถึงในงานคือโซนที่เรียกว่า Fan Zone ซึ่งก็คือที่โชว์ของเหล่า MOC นั่นเอง สำหรับผมถ้าไม่นับบ่อเลโก้กับโซน Technic แล้วผมชอบอันนี้มาก ฃเพราะได้ทั้งไอเดียและความร้สึกดีๆที่มีตอนเด็ก ความทรงจำที่จับบริคตอนแรกและความตั้งใจจะทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างและในโซนนี้ก็มีทั้งการจำลองฉากจากหนัง ทำเป็นรูปคน วางกลไก และออกแบบสถาปัตยกรรมขึ้นเอง เรียกได้ว่าทั้งได้ไอเดียและความรู้สึกดีๆจากโวนนี้เลยก็ว่าได้
สำหรับหลายคนเลโก้อาจเป็นของเล่นพลาสติกไร้สาระ ของเด็กเล่นที่ไม่เหมาะผู้ใหญ่หรืออะไรก็ตามแต่ที่จะวิจารณ์กันไปแต่สำหรับผมเลโก้เป็นแรงบันดาลใจ ความทรงจำ จินตนาการ และสำคัญที่สุดมันเป็นแทนความรักที่ผมได้รับจากครอบครัว
Thank you for being with me…
wildebeest 